สวัสดีครับเพื่อน ๆ
วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่อง How to Apply Microsoft Adcenter - สมัุครใช้งาน Adcenter นะครับ
สำหรับเรื่องการสมัครใช้งาน Microsoft Adcenter นั้น ก็มีหลาย ๆ ที่ได้สอนเอาไว้แล้ว นะครับ ยกตัวอย่าง
ของคุณตราวุทธิ์ เหลือสมบูรณ์นะครับ ที่ท่านได้ เขียนรายละเอียดแนะนำเอาไว้อย่างดีเลยครับ
ไปโหลดกันได้ที่นี่เลยครับ คลิกขวา Save As โหลดคู่มือสมัคร AdCenter ของคุณตราวุทธิ์ ได้ที่นี่เลยครับ
ส่วนวีดีโอ เรื่องการสมัคร Adcenter ดูได้ที่นี่เลยครับ กดที่นี่เพื่อดูวีดีโอเรื่องการสมัคร Adcenter
ส่วนการสมัครใช้งาน Adwords นั้น สามารถอ่านได้จากหนังสือ Google Make Me Rich ที่ทุกท่านได้ซื้อ
มาได้เลยนะครับ
Adwords เพิ่มเติมนะครับ
คลิกขวาแล้วเลือก Save As เลยครับ คู่มือ Awords ของคุณตราวุทธิ์ โหลดที่นี่ครับ
คลิกขวาแล้วเลือก Save As เลยครับ หัวใจของ Adwords ของคุณตราวุทธิ์ โหลดที่นี่ครับ
อ้อ สำหรับคนที่พึ่งเข้ามาเว็บนี้ ขอแจ้งไว้นะครับว่า ผมจะสอนหาเงินทางเน็ต 2 ทางครับ นั่นคือ
1. หาเงินผ่าน Affiliate Program โดยมีเทคนิคต่างๆ รวมถึงการทำ Landing Page แบบสวยงามและรวดเร็วโดย
ผมจะทำการแจกเว็บไซต์ให้เพื่อน ๆ ฟรีนะครับ (การสอนหาเงินผ่าน Affiliate Program ผมจะใช้หนังสือคู่มือเป้น
Google Make Me Rich ของคุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ นะครับ เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ Se-Ed นะครับ
เหตุที่แนะนำเล่มนี้เพราะว่าตอนนี้มีหนังสือประเภทนี้ไม่กี่เล่มครับ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจหาเงินจริงจัง ก็ไปซื้อหนังสือเล่มนี้
มาอ่าน แล้วมาศึกษาเทคนิคต่าง ๆ จากผมได้ที่เว็บนี้เลยครับ - ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณตราวุทธิ์นะครับ หนังสือเค้าดี
ก็เลยเอามาเป็นหนังสือเรียนสำหรับสอนเพื่อน ๆ ครับ ใครไม่มีรีบไปซื้อนะครับ เดี๋ยวจะตามเพื่อน ๆ ในเว็บนี้ไม่ทันครับ)
2. ผมจะสอนวิธีหาเงินผ่าน Adsense Program ซึ่งเป็นการนำโฆษณาของ Google Adwords มาติดไว้ในเว็บไซต์เรา
โดยผมมีโปรแกรม สร้างเว็บแบบเร็ว ๆ เป็นร้อยเป็นพันเว็บให้เพื่อน ๆ ได้ใช้กันครับ
สำหรับใครที่มีปัญหาสงสัย สมัคร Adcenter หรือ Adwords ไม่ได้ ก็เช่นเดิมครับ สอบถามได้ที่
http://www.emarketingthai.com/forum/
ขอบคุณครับ
Master
วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554
การหาค่าบิดสูงสุดที่เราจะบิดได้โดยไม่ขาดทุน กดตรงนี้
ดูวีดีโอเรื่อง การหาค่าบิดสูงสุดที่เราจะบิดได้โดยไม่ขาดทุน กดตรงนี้
สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยสูตรการหาค่า บิดสูงสุด โดยที่เรามีโอกาสขาดทุนน้อยกันนะครับ
สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรที่ผมใช้อยู่เป็นประจำ โดย ค่า max bid ที่ได้นี้ หากเพื่อน ๆ ใช้ค่าที่คำนวณได้ โอกาส
ที่จะขาดทุนก็น้อยลงไปด้วยครับ ซึ่งสำหรับสูตรการหาค่า max bid นี้อาจมีได้หลายกรณีนะครับ และ วันนี้
ผมจะบอกเพื่อน ๆ สองกรณีด้วยกันนะครับ
1. กรณีที่ 1 การหาค่า max bid จาก 7Days EPC โดยนึกถึงความหมายของ EPC นั่นคือ EPC นั้นมาจาก
Earning Per 100 Clicks ดังนั้น หมายความว่า หากเราส่ง click เข้าไปยังสินค้าจำนวน 100 clicks แล้ว
จะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับค่า EPC นั่นเอง (เฉพาะใน cj นะครับ) ซึ่งเมื่อเราทราบอย่างนี้แล้ว เราก็สามารถ
เอาค่า EPC ตรงนี้มา คำนวณหาค่า max bid ที่เราจะใช้ได้ นั่นเอง
2. กรณีที่ 2 การหาค่า max bid จาก กำไรของสินค้า โดยไม่คำนึงถึง EPC ซึ่งกรณีนี้ จะใช้กับสินค้าใหม่ที่ยัง
ไม่มีการคำนวณค่า EPC ออกมา ดังนั้นเราจึงต้องหา Max Bid จาก กำไรของสินค้าที่เราจะขายนั่นเอง
และสำหรับการคำนวณค่า Max Bid นี้ไม่เหมาะกับการที่ เรามี Keywords จำนวนมหาศาลนะครับ
การใช้ค่า Max CPC ที่คำนวณได้เหมาะสำหรับ Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจริง ๆ และ เป็น Keywords
ที่สามารถทำกำไรกลับมาให้เรา จริง ๆ ในเริ่มต้น ของการ Bid เพื่อน ๆ สามารถใช้เทคนิคการหา Keywords
ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเราให้ได้เยอะ ๆ จากนั้น เราก็อัด Keywords เข้าไปเลย โดยการ Bid แค่ 0.05 และทำการ
Tracking ว่า Keywords ไหนขายได้บ้าง เราก็เอา Keywords นั้น ๆ มาใส่ค่า Max CPC ที่เราคำนวณได้ไป
โอกาสในการขายเราก็จะสูงขึ้นอีกครับ อันนี้เป็นเทคนิค ลูกทุ่ง ลูกทุ่งของผมเลย แต่ บางที สินค้านั้น ๆ มี Keywords
ที่เกี่ยวข้องไม่กี่ตัว ผมก็จะ ใส่ค่า Max CPC ไปตั้งแต่ต้นเลย เพราะว่า Keywords เป้าหมายมีไม่กี่ตัวดังนั้นผม
เลยใส่ค่า max bid ตามที่คำนวณได้ไปเลย
หวังว่าเทคนิคนี้ คงช่วยให้เพื่อน ๆ หายสงสัยกันได้นะครับว่าเราควรจะ bid เท่าไรดี …. ผมมีคำสรุปดังนี้นะครับ
1. หา Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าให้ได้มากที่สุด อย่างต่ำสัก 1000 keywords
2. เริ่มต้นทำ Campaign โดยการ Bid 0.05 ทุก Keywords Run ไปสัก 10 - 20$ ก่อน เพื่อดูสถิติ
3. ทำการ Tracking ว่า Keywords ไหนที่ขายได้ เมื่อเจอก็แยก Keywords นั้นออกมา
สร้าง adgroup ใหม่สำหรับ keywords นั้น ๆ โดยตรงเลย
4. เอา Keywords ที่ได้จากข้อ 3 ไปหา Keywords ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ให้ได้อีกสัก 5 - 10 Keywords แต่อย่าให้เกิน 20 Keywords นะครับ เน้นเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องจริง ๆเท่านั้น หรือจะไม่หาเพิ่มเลยก็ได้ แล้วแต่ความชอบครับ อย่างไรต้องทดลองดูว่าอย่างไหนให้กำไรมากกว่ากัน
ก็ถือเอาอย่างนั้นเป็นแนวปฏิบัติครับ
5. คำนวณหาค่า Max Bid ออกมาตามสูตรที่ให้ไป จากนั้น ก็ใส่ ค่า Max Bid ไปตามที่คำนวณได้เลยครับ
6. Budget ในการใช้จ่าย ควรตั้งเท่ากับค่า EPC ที่เราเอามาคำนวณ เช่น สินค้้าหนึ่ง 7 Days EPC = 100 เราก็ตั้ง Budget เอาไว้แค่ 100 เท่านั้น
เพื่อเป็นการรับประกันว่า เราจะไม่ใช้เงินเกินค่าที่เราตั้งไว้ครับ
7. คอย Monitor ตลอดครับว่า สินค้าที่เราเอามาใส่ Max Bid นี้ ยังขายได้อยู่และทำกำไรกลับมาให้เราอยู่หรือไม่ และ คอยดูตำแหน่งของเรา
และของคู่แข่งด้วยครับว่า ขึ้นลงอย่างไร หากสินค้าชิ้นนี้ขายดีจริง ๆ ก็เพิ่ม Max Bid ไปสู้กับคู่แข่งได้ครับ
เหมือนเดิมครับ หากใครมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร สอบถามที่ http://www.emarketingthai.com/forum/ นะครับ
โชคดีครับทุกคน
Master
สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยสูตรการหาค่า บิดสูงสุด โดยที่เรามีโอกาสขาดทุนน้อยกันนะครับ
สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรที่ผมใช้อยู่เป็นประจำ โดย ค่า max bid ที่ได้นี้ หากเพื่อน ๆ ใช้ค่าที่คำนวณได้ โอกาส
ที่จะขาดทุนก็น้อยลงไปด้วยครับ ซึ่งสำหรับสูตรการหาค่า max bid นี้อาจมีได้หลายกรณีนะครับ และ วันนี้
ผมจะบอกเพื่อน ๆ สองกรณีด้วยกันนะครับ
1. กรณีที่ 1 การหาค่า max bid จาก 7Days EPC โดยนึกถึงความหมายของ EPC นั่นคือ EPC นั้นมาจาก
Earning Per 100 Clicks ดังนั้น หมายความว่า หากเราส่ง click เข้าไปยังสินค้าจำนวน 100 clicks แล้ว
จะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับค่า EPC นั่นเอง (เฉพาะใน cj นะครับ) ซึ่งเมื่อเราทราบอย่างนี้แล้ว เราก็สามารถ
เอาค่า EPC ตรงนี้มา คำนวณหาค่า max bid ที่เราจะใช้ได้ นั่นเอง
2. กรณีที่ 2 การหาค่า max bid จาก กำไรของสินค้า โดยไม่คำนึงถึง EPC ซึ่งกรณีนี้ จะใช้กับสินค้าใหม่ที่ยัง
ไม่มีการคำนวณค่า EPC ออกมา ดังนั้นเราจึงต้องหา Max Bid จาก กำไรของสินค้าที่เราจะขายนั่นเอง
และสำหรับการคำนวณค่า Max Bid นี้ไม่เหมาะกับการที่ เรามี Keywords จำนวนมหาศาลนะครับ
การใช้ค่า Max CPC ที่คำนวณได้เหมาะสำหรับ Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจริง ๆ และ เป็น Keywords
ที่สามารถทำกำไรกลับมาให้เรา จริง ๆ ในเริ่มต้น ของการ Bid เพื่อน ๆ สามารถใช้เทคนิคการหา Keywords
ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเราให้ได้เยอะ ๆ จากนั้น เราก็อัด Keywords เข้าไปเลย โดยการ Bid แค่ 0.05 และทำการ
Tracking ว่า Keywords ไหนขายได้บ้าง เราก็เอา Keywords นั้น ๆ มาใส่ค่า Max CPC ที่เราคำนวณได้ไป
โอกาสในการขายเราก็จะสูงขึ้นอีกครับ อันนี้เป็นเทคนิค ลูกทุ่ง ลูกทุ่งของผมเลย แต่ บางที สินค้านั้น ๆ มี Keywords
ที่เกี่ยวข้องไม่กี่ตัว ผมก็จะ ใส่ค่า Max CPC ไปตั้งแต่ต้นเลย เพราะว่า Keywords เป้าหมายมีไม่กี่ตัวดังนั้นผม
เลยใส่ค่า max bid ตามที่คำนวณได้ไปเลย
หวังว่าเทคนิคนี้ คงช่วยให้เพื่อน ๆ หายสงสัยกันได้นะครับว่าเราควรจะ bid เท่าไรดี …. ผมมีคำสรุปดังนี้นะครับ
1. หา Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าให้ได้มากที่สุด อย่างต่ำสัก 1000 keywords
2. เริ่มต้นทำ Campaign โดยการ Bid 0.05 ทุก Keywords Run ไปสัก 10 - 20$ ก่อน เพื่อดูสถิติ
3. ทำการ Tracking ว่า Keywords ไหนที่ขายได้ เมื่อเจอก็แยก Keywords นั้นออกมา
สร้าง adgroup ใหม่สำหรับ keywords นั้น ๆ โดยตรงเลย
4. เอา Keywords ที่ได้จากข้อ 3 ไปหา Keywords ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ให้ได้อีกสัก 5 - 10 Keywords แต่อย่าให้เกิน 20 Keywords นะครับ เน้นเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องจริง ๆเท่านั้น หรือจะไม่หาเพิ่มเลยก็ได้ แล้วแต่ความชอบครับ อย่างไรต้องทดลองดูว่าอย่างไหนให้กำไรมากกว่ากัน
ก็ถือเอาอย่างนั้นเป็นแนวปฏิบัติครับ
5. คำนวณหาค่า Max Bid ออกมาตามสูตรที่ให้ไป จากนั้น ก็ใส่ ค่า Max Bid ไปตามที่คำนวณได้เลยครับ
6. Budget ในการใช้จ่าย ควรตั้งเท่ากับค่า EPC ที่เราเอามาคำนวณ เช่น สินค้้าหนึ่ง 7 Days EPC = 100 เราก็ตั้ง Budget เอาไว้แค่ 100 เท่านั้น
เพื่อเป็นการรับประกันว่า เราจะไม่ใช้เงินเกินค่าที่เราตั้งไว้ครับ
7. คอย Monitor ตลอดครับว่า สินค้าที่เราเอามาใส่ Max Bid นี้ ยังขายได้อยู่และทำกำไรกลับมาให้เราอยู่หรือไม่ และ คอยดูตำแหน่งของเรา
และของคู่แข่งด้วยครับว่า ขึ้นลงอย่างไร หากสินค้าชิ้นนี้ขายดีจริง ๆ ก็เพิ่ม Max Bid ไปสู้กับคู่แข่งได้ครับ
เหมือนเดิมครับ หากใครมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร สอบถามที่ http://www.emarketingthai.com/forum/ นะครับ
โชคดีครับทุกคน
Master
วิธีเลือกสินค้าและเอาลิ้งค์จาก CJ
| ![]() | |||
;การหาคีย์เวิร์ดอย่างง่ายและรวดเร็ว
| ![]() | |||
วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
วิธีการต่างๆในการทำ Affiliate Marketing
วิธีการต่างๆในการทำ Affiliate Marketing
Posted by -********************- วิธีการทำ Affiliate Marketing ไม่ได้มีอยู่แค่วิธีเดียว เราสามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือประยุกต์ใช้หลายๆ วิธีร่วมกันก็ได้ โดยวิธีการทำ Affiliate Marketing มีดังต่อไปนี้- Email Marketing เป็นการทำการตลาดผ่านทางอีเมล์ โดยจะส่งอีเมล์ไปหากลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มสมาชิก เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการต่างๆ แต่การส่งอีเมล์ในลักษณะนี้ ต้องไม่เข้าลักษณะ Spam Mail เพราะอาจผิดกฎหมายได้ หรือไม่ก็มีสิทธิ์โนแบนจาก Advertiser ที่เราสมัครเป็นตัวแทนโฆษณา
- Blogging Marketing จากเนื้อหาใน Blog ของผม ถ้าท่านได้อ่านก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Blogกำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการทำการตลาด โดยอาจจะเขียน Blog เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเพื่ออธิบายรายละเอียด หากมีผู้ที่เยี่ยมชม Blog สนใจก็จะคลิ๊กไปที่ Affiliate Links ที่เจ้าของ Blog แทรกเอาไว้
- Article Marketing เป็นการทำ Affiliate Marketingโดยเขียนบทความขึ้นมา เป็นบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับสินค้าที่เราต้องการขาย แล้วนำบทความไปเผยแพร่ผ่านWebsiteต่าง
- Video Marketing มีลักษณะคล้ายๆกับ Article Marketing เพียงแต่เราต้องสร้างคลิปวิดิโอ แล้วพยายามแทรกลิงค์หรือ URL ของ Website ของเราลงไปด้วย เมื่อมีคนดูแล้วสนใจในตัวสินค้าก็จะคลิ๊กเข้ามายัง Website ของเรา
- Paid Link Placement Marketing เป็นการซื้อ Traffic จาก Website ที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก พูดง่ายๆก็คือการไปฝากลิงค์โฆษณาหรือป้ายโฆษณา โดยอาจจะจ่ายค่าโฆษณาเป็นรายวัน, รายสัปดาห์หรือรายเดือน
- SEM (Search Engine Marketing) เป็นช่องทางการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมที่สุด เนื่องด้วยปัจจุบัน Search Engine เข้ามามีอิธิพลในการใช้อินเตอร์เน็ตของเราเป็นอย่างมาก โดยเราอาจแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- SEO (Search Engine Optimization) คือการปรับแต่ง Websiteให้ Search Engine รู้จักและเข้าถึงเนื้อหาของเราได้ง่าย 2.
- PPC Advertising (Pay Per Click Advertising) คือการทำโฆษณากับ Search Engine โดยจะจ่ายค่าโฆษณาในรูปแบบ CPC (Cost Per Click)
วิธีการสมัคร ClickBank
วิธีการสมัคร ClickBank
Posted by -********************-- ไปที่เว็บไซด์ http://www.clickbank.com/ จากนั้นคลิกที่ Sign up
2. กรอกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวเราดังนี้ครับ
หัวข้อ Where shall we send your checks? กรอกข้อมูลสำหรับการรับ Check จาก ClickBank
- Country : ประเทศที่เราอยู่
- Payee Name : ชื่อ-นามสกุล หรือ ชื่อบัญชีสำหรับสั่งจ่าย Check
- Street / PO Box : บ้านเลขที่, ถนน, ซอย
- Suite or Apt # : หมายเลขอพาร์ตเมนต์ คอนโดหรือหอพัก หากไม่มีก็ไม่ต้องกรอกครับ
- City : ชื่อเมือง (เขต, อำเภอ)
- State / Province : จังหวัด
- Zip / Post Code : รหัสไปรษณีย์
หัวข้อ How can we contact you? กรอกข้อมูลสำหรับติดต่อเรา
- Your first name : ชื่อ
- Your first name : นามสกุล
- Your email address : อีเมล์แอดเดรส
- Email address confirmation : อีเมล์แอดเดรส
- Your phone number (required!) : เบอร์โทรศัพท์
- Address of your Web site (if any) : เว็บไซต์ของเราหากมี
- หัวข้อ Select an account nickname for your new account กรอกข้อมูลชื่อลงที่ “Account Nickname ‡ (5-10 letters & digits)” เพื่อใช้เป็น ClickBank ID สำหรับล็อกอินเข้าบัญชีของเรา รวมทั้งใช้เป็นชื่ออ้างอิง เวลาเราขอ LinkID เพื่อไปโฆษณาด้วย
- คลิกเลือกที่ช่อง “Check here to receive targeted, account specific promotions from ClickBank via email” หากต้องการรับข้อมูลข่าวสารจากทาง ClickBank
- อ่านเงื่อนไขและข้อตกลงแล้วคลีกที่ช่อง “I have read and agree to the terms and conditions.” แล้ว Submit
วิธีการสมัคร PayDotCom
วิธีการสมัคร PayDotCom
Posted by -********************-- เข้าไปที่ http://www.paydotcom.com/ แล้วคลิกที่ Signup จากนั้นกรอกข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- Account information : ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของเรา ได้แก่ อีเมล์, Username ที่เราต้องการใช้และ Username นี้จะปรากฏใน LinkID ของเรา เช่นเดียวกับ ClickBank
- Personal information : ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ, ชื่อที่ใช้ในธุรกิจ, ชื่อที่ต้องการให้สั่งจ่าย Check,
ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, Tax ID ซึ่งเป็นส่วนที่คนอเมริกันจะกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ส่วนเราเป็นคนไทยไม่ต้องกรอกครับ
- Payment Processors information :ใส่อีเมล์ Paypal ของเรา (โดยสามารถไปสมัครPaypal ได้ที่
http://www.paypal.com/ ) ต่อมาเป็นส่วนของ Promotion Code หากมีก็ใส่ไปครับ ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนของรูปแบบการจ่ายค่าคอมมิสชันของทางPayDotCom ที่มีให้เราเลือก 2 ทางคือ Paypal และ Check
- คลิกเลือก Receive Inbox Notifications และ I agree to the Terms & Conditions และใส่ Human Verification ให้ตรงกับรูปครับ
2. หน้านี้ PayDotCom จะเสนอ Tools ในการทำAffiliate ครับ ให้เราเลื่อนลงมาล่างสุดแล้วคลิกเลือกที่No thanks. I realize this valuable package is only offered to new members and will never be made to me again. ครับ แล้วคลิกตกลงเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัครครับ


วิธีสมัคร Amazon
วิธีการสมัคร Amazon
Posted by -********************- 1. ไปที่เว็บไซด์ http://www.amazon.com/ จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างคลิกที่เมนู Join Associates2. คลิกที่ Join now for FREE!

3. กรอกข้อมูล อีเมล์ ที่สามารถติดต่อได้ แล้วเลือกที่ I am a new customer. เสร็จแล้วคลิกที่ Sign in using our secure server

4. กรอกชื่อ-นามสกุล อีเมล์แอดเดรส วันเกิดและพาสเวิร์ด เสร็จแล้วคลิกที่ Continue
5. กรอกข้อมูลส่วนตัวที่เป็นจริง (ตรวจสอบชื่อที่อยู่ให้ถูกต้อง เพราะ amazon จะส่งเช็คมาให้ตามชื่อที่อยู่นี้) เสร็จแล้วคลิกที่ Next: Your Website Profile
6. กรอกข้อมูลเว็บไซต์ของคุณโดยละเอียด (หากคุณยังไม่มีเว็บไซต์ แนะนำให้ไปสมัครใช้บริการ Blog ค่ายต่างๆก่อนครับ เพราะสามารถสร้างได้ง่ายมากครับ เช่น Blogger.com ที่ผม Review ให้ดูในบทความก่อนหน้านี้) จากนั้นยอมรับกฎของทางเว็บโดยคลิกที่ Contract Terms เสร็จแล้วกดที่ Finish เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัคร
7. จากนั้นทาง amazon จะบอกว่าเราสมัครเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ให้เรากดที่ Specify Payment Method Now เพื่อยืนยันวิธีรับเงินก่อน
8. จะให้เราเลือกวิธีการรับเงิน โดยมีแบบ Gift certificate/card, Direct depositและCheck แนะนำให้เลือกเป็น Check ครับ (เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบการรับเงินภายหลังได้ครับ) เสร็จแล้วคลิกที่ Continue เพื่อเริ่มทำ affiliate กับทาง Amazon ได้เลยครับ
7. จากนั้นทาง amazon จะบอกว่าเราสมัครเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ให้เรากดที่ Specify Payment Method Now เพื่อยืนยันวิธีรับเงินก่อน
8. จะให้เราเลือกวิธีการรับเงิน โดยมีแบบ Gift certificate/card, Direct depositและCheck แนะนำให้เลือกเป็น Check ครับ (เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบการรับเงินภายหลังได้ครับ) เสร็จแล้วคลิกที่ Continue เพื่อเริ่มทำ affiliate กับทาง Amazon ได้เลยครับ
วิธีสมัคร cj
วิธีการสมัคร CJ
Posted by -********************-1. ไปที่เว็บไซด์ http://www.cj.com จากนั้นไปที่เมนู Publishers แล้วเลือก Application
2. เมื่อเข้าสู่หน้า Sign-Up ให้เลือกภาษา ประเทศ และสกุลเงิน แล้วคลิก Next >>
3. จะเข้ามาสู่หน้ากรอกแบบฟอร์มการสมัคร CJ ให้กรอกรายละเอียดลงไปดังนี้
- Service Agreement : ให้อ่านรายละเอียดเงื่อนไขและข้อตกลงในกรอบแล้วเลื่อนลงมาแล้วคลิก Accept
- Code of Conduct : ให้คลิกตกลงในเงื่อนไข
- Privacy Policy : ให้คลิกตกลงในเงื่อนไข
- Age Certification : ให้คลิกตกลงในเงื่อนไข
- Certification of Authority : ให้คลิกตกลงในเงื่อนไข
- Site Information : ให้กรอกข้อมูลเว็บไซต์ของเราลงไปซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- Web site or newsletter name : ใส่ชื่อเว็บไซต์ หรือ ชื่อในการรับข้อมูล
- Web site URL : ใส่ URL เว็บไซต์ของเรา
- Describe your Web site : อธิบายรายละเอียดเว็บไซต์ของเรา
- Category : เลือกหมวดหมู่เว็บไซต์ของเรา
- Current Monthly Unique Visitors : ปริมาณผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา
Define your promotional methods if any : เลือกรูปแบบวิธีการโปรโมตสินค้า
- Does your Web site offer incentives to visitors, donate a portion of proceeds to charity or require special approval from advertisers? : คลิก No เพราะเว็บไซต์เราไม่มีการจูงใจให้บริจาคเงิน
- Description of your incentive/special program : ไม่ต้องใส่อะไร
- Contact Information : กรอกข้อมูลที่ทาง CJ จะใช้ติดต่อเราได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อีเมล์ (ใช้ในการล๊อกอินด้วย)
- Company Information : ใส่ชื่อบริษัท ถ้าไม่มีให้ใส่ชื่อเราแทน และกรอกรายละเอียดที่อยู่ให้เรียบร้อยรวมถึงเบอร์โทรศัพท์ด้วย เพราะจะใช้ในการรับเช็คในกรณีที่เราเลือกรับค่าคอมมิสชันเป็นเช็ค)
- Payment Information : เลือกรูปแบบการจ่ายค่าคอมมิสชันเป็น Check หรือ Direct Deposit
- Check : ให้กรอกชื่อ-นมสกุลตรง Payee's name และเลือกสกุลเงิน
- Direct Deposit : จำเป็นต้องมีบัญชีของธนาคารกรุงเทพในประเทศไทยและกรอกตามนี้
- Bank Country & Currency : US (USD)
- Bank Name : Bangkok Bank
- Account Holder's Name : ใส่ชื่อเราที่เป็นอังกฤษและต้องตรงกับชื่อบัญชีที่เราเปิดไว้ด้วย
- Account Type : Saving
- Account Number : ใส่หมายเลขบัญชี
- Routing Number/Sort Code : ใส่ 026008691 (หมายเลขรหัสของธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก)
- Please enter the characters into the box below : ใส่ตัวอักษรที่ปรากฏแล้วคลิก Accept Terms หากกรอกข้อมูลถูกต้อง จะขึ้นหน้า "PUBLISHER APPICATION SUMMITTED" เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัคร
- เช็คอีเมล์จะได้รับแจ้ง Account ID, username และ password จากทาง CJ
- ให้นำ username และ password ไป log in เข้าไปยัง CJ
- เมื่อเข้ามายังระบบ CJ ACCOUNT MANAGER แล้ว ให้ไปคลิกที่หน้า Account แล้ว คลิ๊กที่ Edit ในหัวข้อของ "Tax Information"
- กรอก password อีกครั้ง
- คลิ๊กที่ "Certification Of No United States Activities เนื่องจากเราไม่ได้อาศัยอยู่ในสหรัฐและไม่ใช่คนสหรัฐด้วย
- ใส่ชื่อ-นามสกุลตรงช่อง Signature และคลิกที่ Submit Form เป็นอันเสร็จสิ้นและเริ่มดำเนินการโฆษณาสินค้าให้กับทาง CJ ได้เลย
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)